หนึ่งในภาพยนตร์ที่ควรต้องไม่พลาดในซีรีส์ Netflix อย่างแน่นอน รีวิวหนังดีตลอดกาล จะแนะนำก็คือ A Futile and Stupid Gesture: ทึ่มอัจฉริยะ เงอะงะจนได้เรื่อง! ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มาจากเรื่องจริงที่เป็นอัจฉริยะที่สุดต่อไปของโคเมดี้ 3D อกเบี้ยน เดินทางผ่านเวลาที่พาเรากลับสู่ยุคที่เริ่มต้นสำนักพิมพ์โน้ตบุคที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ พบกับการผจญภัยที่ไม่ง่ายเกินไปในโลกของบุคคลเคยชื่อว่าโอป เมื่อเนิร์ดของความหลังใบโน้ตบุ๊คที่เปลี่ยนโลกนี้หยุดลงในวันเสาร์ที่สามเดือนสามปี และมีอำนาจในมือของบุคคลที่ถูกคาดหวังไว้เพื่อเปลี่ยนโลก
“A Futile and Stupid Gesture” เป็นภาพยนตร์ทางบิ๊กสกรีนที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและการงานของดัก เฟเวอร์แมน (วิลเลียม ฟอกส์) ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการของนิตยสาร “National Lampoon” ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงหลังปี 1960 ถึง 1980 เป็นช่วงเวลาที่นิตยสาร “National Lampoon” เป็นสื่อตลาดที่มีอิทธิพลในวงการคอมเมดีเดย์และบันเทิง
ดัก เฟเวอร์แมน เป็นบุคคลที่มีพลังงานและความคิดสร้างสรรค์มาก จับเอาการเล่นคำเหมือนจับความจริงในชีวิตประจำวันและนำมาสร้างเนื้อหาคอมเมดีเดย์ที่สร้างความสำเร็จ นอกจากนี้เขายังเก่งในการแก้ไขปัญหาและเจรจาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิง ซึ่งช่วยเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเนื้อหาและคอมเมดีเดย์ให้เป็นที่น่าสนใจและเป็นเรื่องเพลิดเพลินต่อผู้ชม
ภาพยนตร์นี้จัดเต็มด้วยการแสดงแบบแฟนตาซีโดยวิลเลียม ฟอกส์ที่มีเสน่ห์และความเก่งกาจในการแสดงบทของดัก เฟเวอร์แมน รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์นี้ การนำเสนอบรรยากาศของสมัยก่อนด้วยการตกแต่งภาพและคอสตูมผมที่เก่งได้สร้างความรู้สึกที่สมจริงและเชื่อถือได้ในแบบเรียกคืนสมัยก่อน
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้ถูกเล่าในลักษณะที่ “ปกติ” แต่ A Futile and Stupid Gesture: ทึ่มอัจฉริยะ เงอะงะจนได้เรื่องนั้นจะทำให้คุณรำคาญกับอุปสรรคและการดำเนินเรื่องที่เบ็ดเสร็จได้อย่างที่คุณอาจจะไม่คาดคิด สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องสนุกสนานอีกอย่างคือ ความคิดสร้างสรรค์ในการกลับมาตามรอยประวัติศาสตร์ที่เริ่มต้นสำนักพิมพ์โน้ตบุคที่เป็นที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ เราจะได้พบกับการจับตาเผยแพร่เนื้อเรื่องจากด้านหลังที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน สิ่งนี้สร้างความตื่นเต้นในการรอคอยว่าเราจะได้พบกับเหตุการณ์ต่อไป และการกระทำที่อาจนำไปสู่ความสำเร็จแห่งความฝัน นอกจากนี้ยังมีเสน่ห์พิเศษที่รอให้คุณได้สัมผัสกับการแสดงของนักแสดงทรงคุณค่าที่มากมายอย่าง Will Forte ที่จะทำให้คุณหัวเราะอย่างตลกอีกด้วย
เงอะงะสมอารมณ์กับ A Futile and Stupid Gesture: ทึ่มอัจฉริยะ เงอะงะจนได้เรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักซีรีย์ Netflix และผู้ที่อยากสนุกไปกับเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ของ Christopher Guest ผู้กำกับเรื่องโคเมดี้ และ Will Forte ผู้เล่นบท Genio โดยตรงในหนังนี้ ได้หนึ่งความทรงจำที่เต็มไปด้วยฮัมเส็งผวนสุดเหวี่ยงให้คุณกลับมามองไปที่อดีตสำคัญของวงการโมเดิร์นไนม์ กับการผจญภัยเกล้าหาญที่พาคุณเข้าร่วมการแสดงที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณยังไม่ได้เข้าประสบการณ์โลกของ “ป้าแล้วป้าจอมปลอมแปลง” รีบไปรับชม A Futile and Stupid Gesture: ทึ่มอัจฉริยะ เงอะงะจนได้เรื่องในNetflix และจะรู้สึกสนุกสนานอย่างแน่นอน
Martin Mull รับบทเป็นรุ่นพี่ของ Doug Kenney ซึ่งในตัวเรื่องนั้นเป็นการเลือกตั้งเบาเพรียบเนื่องจาก Doug Kenney เสียชีวิตเมื่ออายุ 36 ปี ดังนั้น Mull จะเล่นบทของ Kenney จากโลกหลังความตายหรือเปล่า? ความจริงคือนี่เป็นการเลือกตั้งเรื่องที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์ ทำให้ Kenney สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเองได้จากระยะไกล แม้ว่าการให้ Forte ทำการพริ้วไปทางมุมนี้ก็จะมีผลเหมือนกัน ดูเหมือนเสมือนว่ามีใครบางคนแค่ต้องการให้ Mull เข้ามาในภาพยนตร์และบทบาทอื่นๆ จึงถูกแบ่งแยกไป การเน้นที่ Kenney นั้นน่าผิดหวังในเชิงเรื่องราว ในทางกลับกันเรื่องราวนี้เป็นของ Kenney มากกว่า Lampoon แน่นอน Kenney เป็นเสียงที่เข้ามาในวงการคอมเมดีเดย์ แต่มีเวอร์ชั่นที่สมดุลกว่าเรื่องราวนี้ที่น่าสนใจมากขึ้น
แย่ที่สุดคือ “A Futile and Stupid Gesture” ไม่สามารถรักษาลักษณะไร้ความเคารพและแนวคิดที่มาจากเรื่องตลก National Lampoon ตลอดเรื่อง และ Wain ไม่สามารถจัดการกับเนื้อหาที่เข้มงวดได้อย่างสมบูรณ์ มีความรู้สึกว่าเขาอาจจะขอให้เข้ามาในห้องการเขียนหรือหลังเบื้องหลังของรายการวิทยุมากกว่าจะจัดการกับการติดยาและการทุเรศของ Kenney การนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องแต่ไม่ลึกลับของเหตุการณ์ตลกที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่น่าสนุกในทางหนึ่ง (คล้ายว่า “The Chris Farley Show”) แต่ลักษณะนี้แน่นอนไม่เหมาะสมเมื่อภาพยนตร์ต้องเล่นบทที่แตกต่างจากนั้นอย่างร้ายแรง ในจุดหนึ่ง Kenney กล่าวว่า “คอมเมดี้ไม่จำเป็นต้องสวยงาม เอาแต่ความเปลือย” ในทางที่มันจัดการทั้งเรื่องตลกและความทุกข์ของแง่มุมนี้ ฉันหวังว่าภาพยนตร์นี้จะเป็นเช่นกัน
ถ้าคุณชื่นชอบภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาวงการบันเทิงในอดีต และต้องการเข้าใจถึงการสร้างสรรค์และการทำงานในวงการคอมเมดีเดย์ คุณอาจพบว่า “ทึ่มอัจฉริยะ เงอะงะจนได้เรื่อง” เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจและสนุกสนานสำหรับคุณ